ด้วยลักษณะทางกายวิภาคและสรีรวิทยาของระบบปัสสาวะและฮอร์โมนสืบพันธุ์ที่แตกต่างจากเพศชาย ผู้หญิงจึงมีปัญหาปัสสาวะเล็ดราดมากกว่าผู้ชาย ความแตกต่างเหล่านี้ได้แก่ การที่ผู้หญิงมีกล้ามเนื้อหูรูดแข็งแรงน้อยกว่าผู้ชาย หรือการที่อายุมากขึ้นแล้วฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลง ทำให้เยื่อบุช่องคลอดฝ่อตัวและแห้งจนเป็นปัจจัยเสี่ยงทำให้เกิดภาวะปัสสาวะเล็ดราด เป็นต้น การทำความเข้าใจถึงสาเหตุ การรักษา และวิธีการปฏิบัติตัวจึงทำให้ผู้หญิงโดยเฉพาะในวัยสูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
สาเหตุของภาวะปัสสาวะเล็ดราด
ปัจจัยต่างๆ ที่เป็นสาเหตุของภาวะปัสสาวะเล็ดราดในผู้หญิงมีดังนี้
• หูรูดทางเดินปัสสาวะปิดไม่สนิท ทำให้เวลาไอจามหรือมีแรงดันในช่องท้อง ปัสสาวะจึงเล็ดออกมา
• กระเพาะปัสสาวะมีการเคลื่อนที่หรือบีบตัวผิดปกติ
• กระเพาะปัสสาวะสะสมน้ำปัสสาวะเรื่อยๆ เนื่องจากผู้ป่วยไม่สามารถขับปัสสาวะได้ พอสะสมมากขึ้นเรื่อยๆ น้ำปัสสาวะก็จะล้นออกมาภายนอก
ผู้หญิงในแต่ละวัยจะมีสาเหตุของภาวะนี้ต่างกัน ผู้หญิงที่อายุน้อยมักจะปัสสาวะเล็ดเนื่องจากกระเพาะปัสสาวะบีบตัวผิดปกติ ผู้หญิงวัยกลางคน (อายุ 40 ปีขึ้นไป) มักจะปัสสาวะเล็ดเนื่องจากกล้ามเนื้อหูรูดเริ่มไม่ปกติ วัยสูงอายุ (60 ปีขึ้นไป) มักจะมาจากทั้งปัญหาที่หูรูดและการบีบตัวของกระเพาะปัสสาวะ และผู้หญิงที่มีอายุ 80 ปีขึ้น มักพบปัญหาปัสสาวะเล็ดเนื่องจากปัสสาวะล้นจากกระเพาะปัสสาวะ
อนึ่ง ผู้สูงอายุอาจจะมีสาเหตุอื่นๆ นอกจากปัจจัยสามประการที่กล่าวในเบื้องต้น โดยสรุปออกมาเป็นอักษรย่อว่า DIAPPERS ซึ่งตัวอักษรแต่ละตัวมีความหมายดังนี้
• Delirium ภาวะสับสน งงงวย จำผู้คนไม่ได้ จำไม่ได้ว่าตนเองอยู่ที่ไหน เวลาเท่าไหร่ สถานที่คืออะไร มักพบในผู้ป่วยที่นอนโรงพยาบาลเป็นเวลานานๆ
• Infection การติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ
• Atrophic vaginalitis ภาวะช่องคลอดแห้งเวลาหมดประจำเดือน พอแห้งมากๆ ก็จะอักเสบ แล้วเกิดการระคายเคือง กระตุ้นให้เกิดปัสสาวะเล็ด
• Pharmaceutical ยาบางตัวเช่น ยาขับปัสสาวะ สามารถกระตุ้นให้ปัสสาวะเล็ดได้
• Psychological disorders ความผิดปกติทางจิตใจ
• Excessive urine output ปริมาณปัสสาวะมากเกินไป เนื่องจากได้รับน้ำมากกว่าปกติ
• Restricted mobility ผู้ป่วยไม่สามารถเดินได้ เช่น ผู้ป่วยขาหัก นอนบนเตียง ภาวะดังกล่าวทำให้ปัสสาวะเล็ดเนื่องจากผู้ป่วยต้องอยู่เฉยๆ ไม่สามารถเข้าห้องน้ำได้
• Stool impaction ท้องผูก
การรักษาภาวะปัสสาวะเล็ดราดในผู้หญิง
ในกรณีปัสสาวะเล็ดเวลาไอจามหรือมีแรงดันในช่องท้องมาก ให้บริหารกล้ามเนื้อเชิงกรานเพื่อให้กล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้น ถ้าบริหารอย่างถูกต้องในระยะเวลาที่พอเหมาะ ภายใน 3 เดือน ผู้ป่วย 60-80% จะมีอาการดีขึ้น สุภาพสตรีทุกคนที่มีบุตรควรบริหารกล้ามเนื้อเชิงกราน วิธีการบริหารมีหลายเทคนิค อาจทำวันละ 3 ชุด ชุดละ 20 ครั้ง แต่ละครั้งให้ทำนาน 6-8 วินาที นอกจากการฝึกขมิบค้างไว้ ก็มีการฝึกขมิบแบบเร็วๆ ประมาณ 10-20 ครั้งต่อชุด การขมิบถี่ๆ ช่วยให้กระเพาะปัสสาวะที่บีบตัวกระทันหันคลายตัวได้ นอกจากการบริหารแล้ว ยังมีการผ่าตัดใส่เทปตรงท่อปัสสาวะซึ่งช่วยให้ท่อปัสสาวะนิ่ง การทำงานของหูรูดดีขึ้น การผ่าตัดนี้ใช้เวลา 15-20 นาที ในระยะยาวได้ผลดีมาก แต่ไม่แนะนำให้เป็นตัวเลือกอันดับแรกเนื่องจากมีค่าใช้จ่ายสูงและการผ่าตัดมีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนเช่นปัสสาวะลำบาก
ส่วนผู้ที่มีปัญหาปัสสาวะเล็ดเนื่องจากกระเพาะปัสสาวะมีการเคลื่อนที่หรือบีบตัวผิดปกติ ให้ปรับการดำเนินชีวิตโดยการงดเครื่องดื่มคาเฟอีน (ชา โกโก้ กาแฟ น้ำอัดลม) เนื่องจากคาเฟอีนมีฤทธิ์ขับปัสสาวะ นอกจากนี้ไม่ควรดื่มน้ำมากเกินไป ปริมาณน้ำที่ควรดื่มต่อวันคือ 1-1.5 ลิตร โดยค่อยๆ แบ่งดื่มไปตลอดวัน นอกจากนี้ยังมียาที่ใช้รักษาภาวะปัสสาวะเล็ดเนื่องจากกระเพาะปัสสาวะบีบตัวผิดปกติ แต่ยาดังกล่าวมีผลข้างเคียงคือทำให้ปากแห้งคอแห้งได้
ในผู้ที่มีปัญหาปัสสาวะเล็ดทั้งจากการทำงานของหูรูดและการบีบตัวของกระเพาะปัสสาวะที่ผิดปกติ แพทย์จะรักษาทั้งสองภาวะไปด้วยกัน โดยดูว่าภาวะไหนเด่นที่สุด
ผู้ที่มีปัญหาปัสสาวะเล็ดเนื่องจากปัสสาวะล้นจากกระเพาะปัสสาวะนั้น แพทย์จะให้การรักษาโดยการสวนปัสสาวะที่ค้างอยู่มากผิดปกติออกมา เนื่องจากผู้ป่วยต้องสวนปัสสาวะเป็นประจำ แพทย์จะสอนให้ผู้ป่วยและแพทย์สามารถทำการสวนปัสสาวะได้ด้วยตนเอง
ผู้สูงอายุที่มีปัญหาปัสสาวะเล็ดเนื่องจากความผิดปกติอย่างอื่นเช่น DIAPPERS นั้น ถ้าสามารถแก้ไขความผิดปกติเหล่านั้นได้ อาการปัสสาวะเล็ดก็จะดีขึ้นหรือหายไปในที่สุด
การรักษาอาการปัสสาวะเล็ดให้ได้ผลดีนั้น นอกจากอาศัยการปฏิบัติตนที่ดีของผู้ป่วย การรักษาจากแพทย์แล้ว ลูกหลานและคนรอบข้างผู้ป่วยก็มีส่วนสำคัญต่อการรักษา การหมั่นสังเกตอาการโดยทั่วไปและความผิดปกติของปัสสาวะ ตลอดจนให้ข้อมูลประวัติทางการแพทย์ของผู้ป่วยแก่แพทย์จะช่วยให้การรักษาเป็นไปด้วยดี
Highlight
ผู้หญิงในแต่ละวัยจะมีสาเหตุของภาวะนี้ต่างกัน ผู้หญิงที่อายุน้อยมักจะปัสสาวะเล็ดเนื่องจากกระเพาะปัสสาวะบีบตัวผิดปกติ ผู้หญิงวัยกลางคน (อายุ 40 ปีขึ้นไป) มักจะปัสสาวะเล็ดเนื่องจากกล้ามเนื้อหูรูดเริ่มไม่ปกติ วัยสูงอายุ (60 ปีขึ้นไป) มักจะมาจากทั้งปัญหาที่หูรูดและการบีบตัวของกระเพาะปัสสาวะ
ข้อมูลจาก HealthToday ฉบับที่ 168 April 2015 หน้า 64 คอลัมน์ โรคและปัญหาสุขภาพ